Maniac ที่ต้องบอกเลยว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ดีที่ มีความยาวตอนไม่มากเพียง 10 ตอนเท่านั้น ซึ่งหมายถึงการรวบรัด เนื้อเรื่องที่เข้าเนื้อหาหลักๆ ในทุกตอน แต่ในช่วงแรก 1-2 ตอนหนังอาจเพียงต้องการให้ข้อมูล ทั้งของแอนนี่ และโอเว่น เราเลยจะต้องดูความเป็นมา ทั้งครอบครัว และความเป็นตัวตน นิสัยของสองคนนี้มากหน่อย
ซึ่งในส่วนของโอเว่น ใครหลายคนที่ได้เห็นทั้งครอบครัว ที่มีตระกูล ร่ำรวย และคอยที่จะช่วยซัพพอร์ทโอเว่น แม้กระทั่งวันที่เขาต้องโดนพักงาน จากการที่ตัวเองนั้นมีความผิดปกติทางด้านจิต หรือป่วยทางจิตเวช ทำให้นาทีนั้นโอเว่นต้องหาทาง ที่จะหาเงินมาทดแทนงานที่เสียไป โดยการเป็นผู้เข้าร่วมการทดลอง กับโครงการทดลองยารักษาในคนป่วยทางจิต ยาเพียง 3 เม็ดสามารถรักษาให้หายได้
ความโดดเดี่ยว อ้างว้างสาเหตุของ Maniac คนที่ป่วยทางจิต
หนังเริ่มเรื่องก็บอกถึงเรื่องราว บาดแผลในใจของคนเราว่า การเชื่อมต่อของแต่ละคนนั้น เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรจะมี และการโดนตัดขาดจากสังคม ก็จะเกิดความโดดเดี่ยว ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ โรคต่างๆ ที่มาทางจิต โดยบอกอีกว่า คนเราที่นอนฝันกัน ไม่มีอะไรมากมาย สิ่งเหล่านั้นที่เกิดเป็นความฝัน ก็มาจากจิตใต้สำนึกของเราเอง ทั้งในอดีตที่ผ่านไปแล้ว กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง กับเรื่องปมในอดีตและความเครียดกับสิ่งที่เรากังวล
การปูพรมในการเล่าเรื่องของManiacเลยเป็นที่มาให้เราได้รู้จัก โอเว่น มิลกริม คนที่อยู่ในตระกูล ครอบครัวที่ร่ำรวย แต่แปลกที่ตัวเขาไม่เคยอยากได้รับความช่วยเหลือ ทั้งจากครอบครัว หรือจากพ่อของตัวเองเลย แม้กระทั่งวันที่โดนพักงานเป็นการถาวร โดยที่พ่อยังยื่นมือ ให้เข้าไปทำงานกับธุรกิจของครอบครัว แต่ตัวเขาปฏิเสธและโกหกว่าได้งานอีกที่ ทั้งๆ ที่งานที่บอกคือ การเข้าร่วมโครงการทดลองยา ในผู้ป่วยทางจิตเวช และการที่ต้องปิดเรื่องนี้คือ บอกไปถือว่าเป็นเรื่องเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลด้วย ทั้งๆ ที่ครอบครัวร่ำรวย และไม่จำเป็นต้องทำเรื่องพวกนี้ เพื่อให้มีเงินมาใช้เลย
การเห็นภาพความจริง กับภาพเสมือนจุดตัดเล็กๆ ที่ทำให้แตกต่างกัน
อย่างในหนัง จะเห็นว่าการที่โอเว่นบอกกับอัยการ เพื่อเป็นการยืนยัน ในการเข้าเป็นพยานให้กับพี่ชายตัวเองนั้น ต้องมีสภาพร่างกาย และจิตใจสมบูรณ์ โดยที่ตัวโอเว่นเองยืนยันว่า ตัวเขาสมบูรณ์ทางจิตใจ หายจากโรคทางจิตเวชแล้ว แต่พร้อมกันนั้นโอเว่นก็ยังมองเห็นแก้วน้ำตรงหน้า สะเทือนเหมือนตอนนั้นเกิดแผ่นดินไหว หรือแม้แต่การเห็นข้าวโพดดิบที่คนโยนให้นกกิน แต่ตัวเขากลับจินตนาการต่างจากคนปกติ
สิ่งที่โอเว่นเห็นในภาพความคิดในหัวคือ ข้าวโพดกำลังดีดตัวกลายเป็นป๊อปคอร์น ซึ่งตรงนี้นี่แหละ ที่แน่ใจว่าตัวของเขาเอง ก็รู้ว่าตัวเองยังไม่หายจากโรคทางจิต การตัดสินใจเข้าร่วมบำบัดในโครงการ NPL ที่คนเข้าร่วมโครงการต่างรู้กันดีว่า โครงการนี้ให้เงินดี แต่ก็มาพร้อมกับการเสี่ยงที่สูงต่อชีวิตคนเข้าทดลอง
หนังเรื่องนี้ยังชี้ให้เห็นความสำคัญ ของการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน รวมถึงบริการในอนาคต ที่มีแม้กระทั่งการเป็นสามีชั่วคราว ให้กับแม่ม้าย หรือเป็นเพื่อนในฐานะหลอกๆ เท่านั้นManiacเลยตัดสินใจจับคู่ในการทดลอง ให้แอนนี่เข้าคู่กับโอเว่น ในการทดลองช่วงหลังๆ และเราจะรู้เองว่า จริงๆ แล้วหากเราหันกลับไปรักษาโรคนี้ในจุดเริ่มต้น เราจะรู้ว่าเพียงแค่ใช้ความสัมพันธ์เป็นตัวยารักษา แค่ให้รู้ว่าเรายังมีใครที่เป็นห่วง และรักอยู่ แค่นั้นเอง
https://www.indiewire.com/2018/09/