Tik Tik Boom อาจปล่อยคำถามนี้ ไว้ในช่วงท้ายของหนังเรื่องนี้ และเป็นที่น่าตลกในแบบที่หัวเราะกันไม่ออกทีเดียวว่า ในหลายคนที่ยังมองไม่เห็นเลยว่า ทุกวันที่เราทำงาน หาเงิน หรือทุกอย่างที่รีบเร่งกันนั้น ทำไปเพื่ออะไรในชีวิต นอกจากต้องการมีเงิน เพื่อใช้จ่าย และเก็บเงินกันมากๆ เท่านั้น
หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นของหวาน สำหรับกลุ่มคนดูที่ชื่นชอบ หนังเพลง ละครเพลง หรือบรอดเวย์กัน เพราะเป็นสไตล์แบบที่เราไปดูละครเพลงกันเลย การสอดแทรกเนื้อหา พลอตหนัง ไปพร้อมๆ กับการสลับการร้องเพลงของตัวละคร และที่สำคัญคือ เรื่องนี้ถือว่าเป็น based on true story ของเจ้าพ่อแต่งเพลง และบทละครเพลงชื่อดัง โจนาธาน ลาร์สัน ที่ดังจาก The Musical เรื่อง Rent
เป็นอะไรไม่สำคัญ แค่รู้ว่าเกิดมาเพื่ออะไร เป้าหมายที่ Tik Tik Boom ต้องการสื่อให้คนดูได้รู้
เมื่อเราดูไปได้สักพัก เราจะเห็นเพื่อนฝูง คนรัก และผู้คนที่แวดล้อมตั้ว โจ หรือ โจนาธาน ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพศ และการสื่อให้ได้เห็นว่า การที่เราทำอาชีพอะไร หรือเลือกเรียนวิชาเอกสายไหน จุดเริ่มต้นไม่ได้สำคัญมากไปกว่า เราเจอทางของตัวเองหรือยัง และ Tik Tik Boom ยังถือว่าเป็นหนังที่ เน้นให้เราได้สนุกไปกับทุกช่วงของเรื่อง เราสามารถให้รางวัลกับชีวิตได้ตลอด แต่ก็ต้องไม่ลืมเส้นทางของตัวเองด้วย
โจ ที่เริ่มต้นจากการเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร และรับงานเขียนเพลง และบทละครไปด้วยนั้น เริ่มจากทุกอย่าง ที่เรียบง่าย และเหมือนชนชั้นกลาง ที่สามารถพยุงชีวิตตัวเองให้สามารถมีจ่ายค่าที่พัก มีงาน พึ่งพาตัวเองได้ แต่ชีวิตก็ไม่ได้ใช้คำว่า สบาย ในแบบฉบับของคนที่มีเงิน หรือมีชื่อเสียง จนวันหนึ่งที่ถือว่า เป็นวันของเขา สามารถรับงานเขียนเพลง ที่ทำให้เป็นที่รู้จัก การได้ปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยใหม่ที่ดีขึ้น
รวมถึง แฟนสาวของเขา ซูซาน ที่เริ่มต้นจากการเรียนชีววิทยา จนมารู้ภายหลังว่า ต้องการเป็นนักเต้นแนวโมเดิร์น ทำให้เราในฐานะคนดู เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับตัวละครว่า การเริ่มต้นดีถือว่าสำคัญแล้ว แต่ก็ยังไม่เท่ากับการที่ ต้องรู้ตัวเองด้วยว่า ต้องการไปทางไหน
สิ่งที่ขาดไม่ได้ ที่หนังเรื่องนี้ให้กับเราทุกคน
เมื่อเราดูในช่วงเวลาที่ โจนาธาน มีการแสดงบนเวที ในบทบาทเล่นเปียโน ร้องเพลง แต่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น การที่เขามีการแสดงออกมา ที่่มากกว่างานที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงที่เพราะแค่ไหน หรือทำนองที่ถูกใจคนฟัง แต่สำคัญที่ตัวเขาเอง จะใช้คำว่าคลั่งไคล้ก็ว่าได้ ในงานที่ทำตรงหน้า เราไม่สามารถบอกได้ หากไม่ได้เห็นแววตาของโจ ที่มีต่อสิ่งที่ทำตรงหน้าได้เลย
อย่างที่เราต่างบอกกันว่า ตาของคนเราสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง และแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข ไม่ได้มีกับทุกคนที่ทำงาน แต่มีเฉพาะกับคนที่ รู้สึกว่างานที่ทำเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขา และเป็นเลือดเนื้อ และวิญญาณ เพราะทุกอย่างที่เป็นตัวของเราเอง จะลงไปในงานที่ทำ และนี่คือกำไรที่คนดูได้จากหนังเรื่องนี้
หากในทุกวันนี้ เราหางาน หรือเลือกงานที่ทำ โดยมีเหตุผลอื่นที่ช่วยในการเลือก เพราะการจ่ายเงินที่ดี หรือค่าตอบแทนที่คุ้มค่า สิ่งนั้นไม่ได้เป็นความคิดที่ผิดหรือถูก เพราะในแต่ละคนมีความจำเป็น และต้นทุนขีวิตที่ต่างกัน และเราต่างเข้าใจว่า ทุกอย่างยังต้องพึ่งพาเงิน ที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้ชีวิตเรายังสามารถไปต่อได้
แต่จะดีแค่ไหนกัน หากสิ่งเหล่านี้เราใส่ความรัก ที่จะทำในงานตรงหน้าเข้าไปด้วย เหมือนอย่าง โจนาธาน Tik Tik Boom ที่หากไม่มองในชื่อเสียง หรือผลงานที่เขาทิ้งละครเพลงให้เราได้ดูต่างหน้าในวันนี้ คุณค่าที่ถึงแม้ในวันนี้ ตัวเขาเองจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว แต่สิ่งที่คนดูหนังเรื่องนี้ จะจดจำเขาไปตลอดคือ การใส่หัวใจไปกับงานทุกชิ้นที่เขาได้ทำ และนั่นคือคุณค่าที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จะคงอยู่บนโลกใบนี้ให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้รับรู้ และเก็บเกี่ยวไปได้ตลอด