Eat Play Love เมื่อชีวิตของนักเขียนคนหนึ่งอย่าง ลิซ หรือลิซ่า ที่นำแสดงโดย จูเลีย โรเบิร์ต ที่เพียงแค่นักแสดงคนนี้ ก็สามารถเดาได้เลยว่า การแสดงต้องอยู่ในระดับ ที่ไม่เสียเวลาที่จะดูเลยทีเดียว ผุ้หญิงนักเขียนคนหนึ่ง ที่มีความสำเร็จในงานเขียนระดับหนึ่ง แต่กลับกลายไม่สมหวังเรื่องความรัก และได้เริ่มต้นโดยการไปที่บาหลี เพื่อไปหาหมอดูลายมือคนหนึ่ง
การทำนายชีวิตจากหมอดูคนนี้ เคตุค ทำเอาลิซถึงกับอึ้ง ที่บอกในความหมายไม่สู้ดีเท่าไหร่ ทั้งกับความรักของเธอ ที่ต้องเจอผู้ชายเข้ามาถึง 2 ครั้ง และต้องเลิก แต่จะมีทั้งรักในระยะนาน และรักแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เคตุค ทิ้งท้ายให้กับลิซคือ ภาพที่บอกว่าอยากให้เธอ ยืนด้วยขา 4 ข้างเหมือนอย่างในภาพ และใช้ใจในการตัดสินใจมากกว่าสมอง แต่เหตุการณ์ยังไม่เกิด ลิซก็ได้แต่เก็บคำทำนายนี้ไว้ในใจ
ช่วงเวลาหลังการแต่งงาน และอยู่กับสตีเว่นนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีโปรไฟล์ที่ดี และมีวางแผนอนาคตที่จะไปเรียนต่อ แต่นั้นก็ไม่ได้สร้างความดีใจให้กับลิซเลย เพราะความต้องการของเธอคือ การมีครอบครัวที่อยู่ด้วยกันตลอดอย่างแท้จริง และดูเหมือนงาน ความฝัน และความสำเร็จของสตีเว่นนั้น จะแย่งเอาความรัก และเวลาจากสามีของเธอไปจนไม่เหลือให้เธอเลย
การวิ่งตามหาสิ่งที่ต้องการก็ยากที่จะเจอกความสุขได้ สำหรับ Eat Play Love
ทั้งในส่วนของสตีเว่น ที่ตามล่าความก้าวหน้า และความสำเร็จมากกว่า ความรัก และครอบครัว ทำให้ชีวิตรักต้องล่ม และเกิดการฟ้องร้องในภายหลัง เพราะจู่ๆ ลิซก็ขนเสื้อผ้าออกมา โดยที่ไม่มีการบอกเหตุผลอะไรเลยกับตัวสตีเว่น มากกว่านั้นในเรื่อง Eat Play Love นี้ การที่ลิซพยายามที่จะเติมความรักให้ตัวเอง และแก้ไขชีวิตรักที่ผ่านมา โดยการรีบหาผู้ชายคนใหม่เข้ามาแทน
เดวิด เป็นคนที่สองในฐานะคนรักของเธอ รู้จักกันตอนที่ลิซนั่งดูเขาเล่นละครเวที แต่เป็นการแสดงที่ไม่สู้จะดีนัก เพราะคนดูค่อยๆ ทยอยเดินออกไปเรื่อยๆ แต่แย่กว่านั้น ตัวลิซก็รู้ตัวเอง ในระหว่างที่คบกันว่า เหมือนเธอจะยิ่งคบยิ่งเจอคนที่แย่ลง จากคนที่เหมือนกับอยู่ที่สูงอย่าง สตีเว่นมาเป็น เดวิด ที่เหมือนเธอต้องหล่นมาอยู่ในน้ำแก้วเล็กๆ เพราะเดวิด ไม่มีความมุ่งหวัง และการทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย จนต้องจากลากันไปอีกครั้ง
เริ่มมองเห็นตัวเองชัดเจน และทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ
หลังจากที่ผิดหวังในความรัก และผู้ชายที่เธอตัดสินใจเลือก และคบหา ลิซ่ามองเห็นว่า เธอควรที่จะเติมชีวิตเธอบ้าง กับการที่เธออยากไปอิตาลี และอยากไปนั่งกินเจลาโต้ ซื้อหนังสือเรียนออกเสียงภาษาอิตาลี นั่งกินสปาเก็ตตี้ และการท่องเที่ยวเปิดมุมมองให้ตัวเอง
ไม่อยากที่จะบอกว่า หลังจากผิดหวังเรื่องความรักแล้ว ลิซอาจมีความรู้สึก ที่เห็นความรักมีค่าน้อยลง และมองเห็นตัวเองชัดมากขึ้น การหาความสุขให้กับตัวเอง ผ่านสิ่งที่ชอบ และใฝ่ฝันที่จะทำมานาน ก็เหมือนเป็นการบอกคนดูอีกด้วยว่า การที่เรามุ่งหาเงิน ทำงานหนัก และไม่มีเผื่อเวลาใหักับตัวเองเลย นั่นอาจไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง สำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์สักครั้ง
ประโยคที่อาจทำให้เราเก็บไปคิดได้ ช่วงที่ลิซนั่งกับเพื่อนที่รู้จักในร้านกาแฟ และชายที่นั่งตัดผมบอกว่า ความแตกต่างของคนอิตาลี กับคนอเมริกัน คือ คนอเมริกันมุ่งทำงานมาก และหาเพียงแค่ความบันเทิง ที่คิดว่าสิ่งนี้จะช่วยให้หายเหนื่อย และมีพลังกลับไปทำงานต่อได้ กลับกัน Eat Play Love กลับต้องการให้เราเหมือนกับคนอิตาลี ที่วางจังหวะชีวิต ทำงาน และพักให้สมดุล และให้เราเป็นคนที่หาความสุข มากว่าหาเพียงแค่ความบันเทิงเท่านั้น
https://www.themoviescene.co.uk/reviews/eat-play-love-2017/eat-play-love-2017.html