บอกเลยว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง หรือที่เรียกกันว่า Masterpiece มากๆครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นการแบ่งบทกระจายบทสนทนาของตัวละครต่างๆ รวมไปถึง การแสดงอารมณ์ กริยาท่าทาง เหตุการณ์แต่ฉากที่ตัวเอกอย่างสไปเดอร์แมนต้องเจอ(ซึ่งในส่วนนี้จะกล่าวถึงในช่วงถัดๆไปครับ)นั้นบอกเลยว่า Spiderman No Way Home ทำได้ ‘สมดุลย์’ มากๆ ไม่ขาดไม่เกิน มี Composition (องค์ประกอบ) ที่ดีกลมกล่อม คนที่ชอบดูหนัง Style Superhero หรือเป็นแฟนของ Marvel Cinematic Universe (MCU) ไม่ควรพลาดครับ
Factor & Composition (ปัจจัยและองค์ประกอบ) ใน Spiderman No Way Home
การแสดงอารมณ์ บุคลิคต่างๆของตัวละคร Spiderman ที่รับบทโดย Tom Holland ของจักรวาลหลักค่อนข้างทำให้เรารู้สึกมา Emotional หรือมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครได้ดีจริงๆครับ ด้วยความที่บรรยากาศของ Spiderman No Way Home นั้นค่อนข้างที่จะ Rivet (โลดโผน) มากๆฟังดูอาจมีข้อบกพร่องใช่ไหมครับแต่ผมบอกได้เลยว่า ไม่ครับ เพลินมากๆ หลายๆเหตุการณ์ที่ทำให้ปีเตอร์เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตัวละครที่เป็นเพื่อนร่วมทางของและคู่รักของปีเตอร์อย่าง มี MJ (michelle mj jones) ที่รับบทโดย Zendaya กับ Ned Leeds ที่รับบทโดย Jacob Batalon ก็ทำได้ดีมากๆครับรู้สึกว่าไม่มีใครเด่นไปกว่าใครเลย ทั้ง Ned เนี่ยก็ดึง Sense of Humor (จังหวะฮา) ของเราได้บ่อย MJ ที่คอยช่วยเหลือ เตือนสติไอ้แมงมุมของเราไม่ให้ผิดที่ผิดทาง
ยังไม่หมดครับ อีกทั้งยังมี Andrew Garfield ที่สูญเสียคนรักไป เวอร์ชัน Tobey Maguire ที่เสีย Gwen ไป จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 คนนี้ได้มา Replenish (เติมเต็ม) สิ่งที่ สไปเดอร์แมน Tom Holland นั้นขาดไป สอนอะไรหลายๆอย่าง เช่น ความรับผิดชอบ , สิ่งที่ต้องแลกมาและสิ่งที่ต้องเสียไป , การเตรียมใจ , หน้าที่ที่ต้องแบกรับ , การเติบโตเป็นผู้ใหญ่
พูดถึง Quote(คำพูด) ที่ยอดฮิตนั่นก็คือ ‘With great power comes great responsibility’ (พลังที่ยิ่งใหญ่มากับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง) นั่นดูขลังมากขึ้นไปอีกมากๆครับ ซึ่งนักแสดงทั้งหมดที่กล่าวมานั้น มี Character Emotional Expression (การแสดงอารมณ์ของตัวละคร) ที่ดีมากๆอยากให้ไปรับชมในโรงภาพยนต์เพื่ออรรถรสที่เต็มเปี่ยมครับ
ซึ่งเป็นผู้ที่แนะนำปีเตอร์ในช่วงแรกคือ Doctor Strangeที่รับบทโดย Benedict Cumberbatch ผมก็ค่อนข้างชอบเคมีระหว่าง Doctor Strange กับ Spiderman พอสมควรครับเพราะให้ความรู้สึกเหมือนสไปเดอร์แมน กับ Iron Man อยู่กลายๆครับ รู้สึกเหมือนพี่สอนน้อง พ่อสอนลูก อะไรทำนองนั้นเลยครับในส่วนของ Villain(วายร้าย) ของเรานั้นแต่ละตัวละครโคตรมีเสน่ห์ในตัวครับ แต่ละตัวละครได้แสดงมุมและพลังของตัวเองได้ดี ไม่มีใครด้อยไปกว่าใครครับอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าภาพยนต์เรื่องนี้ค่อนข้างกระจายบทได้ค่อนข้างดีทั้ง Otto Octavius , Electro , Norman Osborn หรือ Green Goblin , Sandman , Lizard มี Air time (ช่วงเวลาในภาพยนต์) ความโดดเด่นที่เท่าๆกันครับ ทำให้ใครไม่เด่นไปกว่าใครและสู้กันกับ 3 Spiderman ได้สุดมันส์ครับ
Spiderman No Way Home นั้นบอกเลยว่า เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูเป็นผลงานที่ดีมากๆ ให้เราได้หลากหลายความรู้สึก ดื่มด่ำ ทั้ง สนุก มันส์ เศร้า ปลื้มปริ่ม ประทับใจ หดหู่ ดีใจ จะบอกว่าเป็น ‘Spiderman ภาคที่ดีที่สุด’ ก็ไม่เกินไปเลยครับ สุดท้ายนี้เนี่ย ไปรับชมกันในโรงภาพยนต์และรับชมกันอย่างถูกลิขสิทธ์นะครับผมสลอต
https://spiderman-nowayhome.netlify.app/