Bright เป็นหนังอีกเรื่อง ที่พูดถึงเรื่องการแบ่งความแตกต่าง ระหว่างแต่ละชนชั้นของสังคม ไม่ว่าจะเป็นหนังที่ผ่านๆ มาอย่าง Parasite และ The Platform เพียงแต่ไม่ได้พูดกันตรงๆ ว่าเป็นคนจน คนรวย หรือคนฐานะปานกลาง แต่แยกเป็นเผ่าออฟ มนุษย์ และเอลฟ์ ที่เรียงตั้งแต่คนที่จนสุด ไล่มาถึงชนชั้นกลาง และกลุ่มคนรวย ที่มีอภิสิทธิ์ในหลายเรื่อง ที่มีตัวเลือกในสังคมมากกว่ากลุ่มแรก
แต่ประเด็นเริ่มต้นที่ กลุ่มออฟ หรือกลุ่มที่เรียกว่าเป็นคนชั้นชั้นระดับเดินถนน หรือกลุ่มใต้ดิน มีจาโคบี้ที่เป็นออฟ และเป็นส่วนน้อยที่เป็นตำรวจอีกด้วย ดังนั้นการทำงานร่วมกับมนุษย์ หรือบัดดี้คู่หูอย่าง วอร์ดนั้นสำหรับความสัมพันธ์ของสองคนไม่น่ามีปัญหา แต่ภายหลังเริ่มจะมีปัญหา เพราะภรรยาของวอร์ดรู้สึกว่า การที่สามีของเธอต้องเข้าใกล้ชนชั้นเผ่าพันธุ์นี้ จะทำให้เกิดปัญหาที่ทำให้ผู้คนพาลมาเกลียดวอร์ดร่วมด้วย
Bright การตัดสินว่า กฎแห่งเผ่าพันธุ์จะสำคัญกว่าหน้าที่การงานหรือไม่
จุดเริ่มต้นที่มาจากการที่ภรรยาของวอร์ด และรวมถึงตัวเขาเองด้วย ที่เริ่มจะไม่อยากให้วอร์ดต้องมาร่วมงาน หรือเป็นคู่หูตำรวจร่วมกับจาโคบี้ เพราะเกิดการตามล่าคนร้ายคนหนึ่ง และคนร้ายเป็นเผ่าเดียวกับจาโคบี้ คือเป็นออฟเหมือน การตามไล่ล่าที่ทำให้วอร์ดต้องล้มลง กลายเป็นจาโคบี้ไล่ตามไปคนเดียว Bright เลยตั้งใจตั้งโจทย์เป็นข้อสงสัยว่า หลังจากนั้นที่คนร้ายหนีไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นการช่วยเหลือของจาโคบี้หรือไม่
เพราะหากมองลงลึกในกฎของกลุ่มออฟนั้น จะต้องมีการช่วยเหลือ พึ่งพากันระหว่างเผ่าพันธุ์เดียวกัน ที่ทำให้ทั้งกลุ่มตำรวจผู้ใหญ่ และคนดูต่างสงสัยว่า เกิดจากการช่วยเหลือของจาโคบี้ แต่จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาผลงานของเขาเป็นที่รู้จัก กับเพื่อนตำรวจทุกคนว่า เขาเป็นคนซื่อสัตย์ในหน้าที่ตำรวนมาก
การตัดสินคนกับเหตุการณ์ที่เห็นเพียงภายนอกเท่านั้น
เรื่องนี้น่าจะมีประเด็นจุดสาเหตุ ให้บานปลายเพียงแค่นี้ แต่สามารถทำให้เกิดความสงสัย และลามมาถึงเพื่อนคู่หูอย่างวอร์ดไปด้วย ผลที่ได้ตามมาอาจจะไม่ใช่เล่นๆ เพราะจาโคบี้ และวอร์ดอาจโดนปลดจากการเป็นตำรวจ รวมถึงวอร์ดเองที่อดทนเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้นก็จะได้เงินบำนาญเกษียณแล้ว เหมือนทุกอย่างจงใจที่จะเกิดในช่วงเวลานี้ ที่ทำให้ความมั่นคงในหน้าที่ตำรวจของวอร์ด ต้องอยู่ในความระแวงว่า จะโดนปลดจากหน้าที่ด้วยการกระทำไม่ชอบ
แต่นอกจากประเด็นของจาโคบี้ ที่ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ของออฟแล้ว ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ยังมีกลุ่มพลังแห่งแสงโผล่ขึ้นมา และเป็นผู้กุมความลับ ทั้งตัวเลลาที่มีความเป็นไบร์ท และถือว่ามีส่วนหนึ่งในตัวเป็นเอลฟ์ด้วย เป็นที่ต้องการขององค์การส่วนกลาง ที่ดูแลฝ่ายเอลฟ์ และเวทมนต์ที่ต้องการรู้ความจริง โดยเฉพาะเรื่องราวของเลลา ที่เป็นคนที่หลายฝ่ายต้องการตัว เพื่อเปิดเผยความลับบางอย่าง
ดูโดยรวมๆ ก็คือเป็นหนังที่กึ่งๆ เกี่ยวกับเวทมนต์ ความเหนือธรรมชาติ และถึงแม้ว่า Bright อาจจะไม่ได้ทำให้ วิล สมิทธ ดูโดดเด่นเท่าที่ควรจะเป็น เหมือนหนังเรื่องที่ผ่านๆ มา ที่เหมือนจะให้เขาเป็นตัวละครฉายเดี่ยว และดึงความสนใจเพียงคนเดียว ถือว่าเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ที่ทำให้เราได้เห็นการทำงานร่วมกัน และการเล่นในแบบที่ต้องเข้ากันให้ได้ดี ในแบบคู่หูตำรวจกับ โจเอล เอดเกอร์ตันอีกด้วย ดูหนังเรื่องนี้อาจต้องทำใจ เพราะจะมีกลุ่มเผ่าพันธุ์ต่างๆ ให้ต้องจำ ที่ไม่มีเพียง 3 เผ่าพันธุ์ที่บอกไปข้างต้นเท่านั้น
