The Sea Beast บอกเล่าเรื่องราวของอสูรกาย หรือสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ ที่เห็นเพียงสีลำตัวแดง และเป็นสัตว์ที่สร้างบาดแผล และความเจ็บปวดให้กับกัปตันโครว์ ทำให้ต้องเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง จากวันนั้นจนถึงวันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ทำให้กัปตันต้องออกเรือ ตามหาอสูรสีแดงตัวนี้ เพื่อตามล้างแค้นเอาคืนสิ่งที่เคยทำกับเขาเอาไว้
The Sea Beast ภาพภายนอกที่คนมอง อาจไม่ใช่ตัวตนจริงของเรา
เด็กผู้หญิงที่ชื่อ เมซี่ เป็นหนี่งในเด็กกำพร้า ที่อยู่ในสถานรับเลี้ยง ที่ภายในเป็นเด็กที่มาจากครอบครัว ที่สูญเสียพ่อแม่จากการโดนฆ่าของอสูรร้ายสีแดงนี้ แต่ไม่มีเด็กคนไหน ที่จิตใจฮึดเหิม และกล้าหาญเท่าเด็กผู้หญิงผิวสี ผมหยิก และมีคำพูดที่ท่องขึ้นใจว่า “อยู่อย่างยอดเยี่ยม และตายอย่างยิ่งใหญ่” การสูญเสียพ่อแม่ไป ถึงเมซี่จะเสียใจเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่ทำให้เธอเข้าใจได้ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อแม่เธอ จะโดนฆ่าจากอสูรร้ายตัวนี้ ที่มีใครอีกหลายคนก็โดนแบบเดียวกัน
ด้วยความที่เป็นหนังคนเดินเรื่อง และเมซี่เกิดมาจากพ่อแม่ ที่ทำอาชีพเดินเรืออยู่แล้ว เลยทำให้The Sea Beastถ่ายทอดความเป็นคนกล้าหาญ และไม่คิดกลัวกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง มองเห็นได้จากที่ เมซี่ตัดสินใจหนีออกจากสถานดูแลเด็กกำพร้า เพื่อออกไปตามหาล่าอสูรร้ายที่เคยฆ่าพ่อแม่ของเธอ ที่สำคัญเธอต้องการเป็นลูกเรือ และผู้ช่วยของกัปตันโคร์ว คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ ในการตามล่าอสูรร้าย
ถึงแม้ว่ากัปตันโคร์ว จะเป็นกัปตันที่มีประสบการณ์มากในการเดินเรือ และเคยต่อสู้กับอสูรร้ายตัวนี้มาแล้วก็ตาม การมาเจอกันอีกครั้งที่สอง ก็ยังทำให้กัปตันโคร์ว และลูกเรือต้องคว้าน้ำเหลว ไม่สามารถที่จะฆ่าตัวสัตว์ร้ายตัวนี้ได้สำเร็จ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนทั้งลูกเรือ และกัปตันก็รู้สึกแย่ แต่เมื่อหันเรือกลับเข้าเมือง ผู้คนในเมืองกลับเชิดชูทุกคนบนเรือล่าอสูรว่า เป็นผู้กล้าหาญ
เป็นความรู้สึกเดียวกับเมซี่เมื่อได้มาเจอกับเจคอป ลูกเรือของกัปตันโคร์ว เธอได้อ่านเรื่องราวของเจคอปในหนังสือของกัปตันโคร์ว และรู้ว่าตัวเขาได้ตามติดมาช่วยงานกัปตันโคร์ว ตั้งแต่อายุเท่าๆ กับเธอ เลยทำให้เมซี่พูดออกไป เมื่อเจอกับเจคอปว่าขอติดตามขึ้นเรือกัปตันโคร์วไปด้วย เพราะตัวเธอก็อยากที่จะล่าสัตว์ประหลาด ที่เคยฆ่าพ่อแม่เธอไปเหมือนกัน แต่กลับไม่ใช่ความคิดเดียวกับเจคอป เพราะเขามองดูว่าเธอยังเด็กไป
ความน่าตื่นตาตื่นใจ กับสัตว์ประหลาดหลากหลายชนิด
จริงๆ แล้วหากดูไปเรื่อยๆ จะรู้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงอสูรร้ายตัวสีแดงแค่ตัวเดียว แต่เมืองๆ นี้โดยเฉพาะเกาะที่เจคอปและเมซี่ไปติดอยู่ กลับทำให้คนทั้งคู่รู้ว่า มีสัตว์ร้ายมากมายหลากหลายชนิด ที่อยู่ล้อมรอบการเดินเรือของพวกเขา แต่ถ้าเปรียบเทียบดูเมซี่กับรู้สึกว่า การได้เจออสูรร้ายพวกนี้ กลับเป็นทางออกที่ดีกว่า เจอกัปตันโคร์วที่เตรียมจะฆ่าเธอ เพราะในช่วงเวลาที่อสูรร้ายออกมา เธอดันไปตัดเชือกที่มัดตัวสัตว์ร้ายนั้นได้ เพียงแค่เมซี่ต้องการช่วยทุกคนบนเรือ ให้รอดจากการจมน้ำตาย
แต่ใครจะไปเชื่อ ช่วงเวลาที่เดินเรือระหว่างเมซี่และเจคอป เมื่อได้เจอสัตว์ร้ายตัวอื่นที่จะเข้ามาทำร้าย แต่จู่ๆ อสูรตัวสีแดงก็โผล่ออกมา ได้ทันเวลา และเหมือนกับว่าทั้งหมดจะร่วมมือช่วยกันฆ่าสัตว์ร้ายอีกตัว จนจบภารกิจนี้ ทำให้ทั้งเมซี่ เจคอป และอสูรตัวสีแดงที่ใครหลายคนต้องการฆ่า รวมถึงเจคอปและเมซี่ด้วย ในตอนนี้กลับกลายเป็นเพื่อน ที่อสูรร้ายตัวนี้ พาเรือของคนทั้งคู่เดินทางบนหลังของมัน แต่คิดว่าเรื่องราวคงไม่ได้มีความสุขแบบนี้ไปตลอดอย่างแน่นอน เพราะกัปตันโคร์ว หลังจากที่ล้มเหลวจากการจับสัตว์ร้ายตัวนี้แล้ว ก็หวังพึ่งให้แม่มดช่วยให้เขาสามารถจับเจ้าสัตว์ร้ายตัวสีแดงนี้ให้ได้
สุดท้ายแล้วเราจะได้เห็น สิ่งที่น่ากลัวอย่างอสูรร้ายตัวนี้ว่า จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงแค่คำพูดปากต่อปากที่ไม่มีความจริงอยู่เลย เพราะการที่อสูรร้ายทำร้ายมนุษย์ก็เกิดจาก สิ่งที่คนในราชวงศ์เขียนหนังสือขึ้นมา เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดว่า อสูรร้ายทำร้าย และฆ่าคนในเมืองนี้ แต่จริงๆ แล้วThe Sea Beastจะบอกว่าสิ่งมีชีวิตที่ร้ายยิ่งกว่าอะไร ก็คือมนุษย์ที่สร้างเรื่อง เพื่อให้อสูรร้ายน่ารังเกียจในสายตาของทุกคนในเมือง ก็เพราะต้องการเอาชิ้นส่วนของอสูรร้ายตัวนี้ไปขายได้เงินมาเพียงเท่านั้นเอง
