Trolls World Tour การกลับมาของมนุษย์ตัวจิ๋ว ที่ใครหลายคนมองดูคล้ายต้นไม้เล็ก ที่มีใบขึ้นเป็นผม ตั้งแต่ภาคแรกของหนังเรื่องนี้ เป็นการบอกลักษณะของตัวละครทั้งหมด ให้เป็นเหมือนตัวแทนความมีสีสัน และความสนุกร่าเริง โดยทำให้เรารู้สึกว่า จะมัวเศร้ากับความทุกข์ที่โลกมอบให้มาทำไม แค่ทำตัวเองให้มีความสุข ในมุมที่ตัวเองเป็นก็พอแล้ว
ซึ่งต่อมาภาคนี้เป็นการจับคู่ การเดินทางของเหล่าตัวการ์ตูนโทลล์ส ที่เอามาผูกกับเรื่องของดนตรี ที่มีความหลากหลาย และทำเหมือนเป็นการที่บาร์บ ตัวละครใหม่ที่เกิดขึ้นมา ในภาพของผู้นำกลุ่มเส้นสายดนตรีร็อก ที่ต้องการจะกุมอำนาจทั้งหมดไว้กับตัวเอง โดยที่จะรวมเอาทั้งดนตรีป๊อป, คันทรี, เทคโน, ฟังค์, คลาสสิก และร็อก อยู่ภายใต้การนำของเส้นสายดนตรีร็อกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
Trolls World Tour เน้นสีสัน และดนตรี ช่วยให้ทุกอย่างคลายกังวลขึ้น

การที่หนังการ์ตูนเรื่องนี้ มีการสร้างธีมตั้งแต่แรก โดยการเน้นเรื่องความมีสีสันสดใส และหลากหลายทั้งนิสัยของแต่ละตัวละคร รวมถึงคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน และที่สำคัญต้องมีตัวละครที่เป็นนางเอกอย่าง Queen Poppy และ พระเอกที่รูปลักษณ์ภายนอกไม่เหมาะสักเท่าไหร่อย่าง Branch แต่นั่นเป็นสิ่งที่คิดว่าหนังเด็กดูสนุก ผู้ใหญ่ดูเพลินต้องการเน้น
โดยเฉพาะในTrolls World Tour ในภาคนี้ เรื่องความที่เราดูเหมือนไม่น่าเหมาะกัน อย่างป๊อปปี้ หรือแบรนซ์ นั้นแต่ก็มาคู่กันได้ และความหลากหลายที่ต้องมาอยู่ในสังคมเดียวกัน อย่างประเภทดนตรีทั้ง 6 เส้นสาย รวมถึงบางกลุ่มคนอย่างบาร์ป ต้องการรวบอำนาจไว้กับตัวเอง ก็เหมือนสังคมเราในทุกวันนี้ ที่หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้อยู่ต่อ ก็ไม่มีทางที่ทุกคนจะเดินไปด้วยกันได้อย่างมีความสุข แต่ด้วยความที่เป็นหนังเด็ก เลยเป็นการตีบอกเบาๆ ด้วยการนำเอาเพลง และดนตรีมาช่วยในการบอกแทน
รวมเพลงดังในยุค 90 อยู่ในหนังเรื่องนี้
เพลงที่ติดหูอย่าง Just Sing, Perfect for Me, One More Time, The Other Side และ It’s All Love รวมถึงยังมีอีกหลายเพลงที่ฟังติดหูได้ง่าย และถือว่าเป็นจังหวะที่ตัวโทลล์ส ทั้งหลายสามารถเต้นได้อย่างสนุกสนานทีเดียว รวมถึงเพลงทั้งหมดในหนังเรื่องนี้ยังสามารถช่วยให้ เรื่องราวที่เกือบจะมีเรื่องกันระหว่าง บาร์ป กับแบรนซ์และป๊อปปี้ เป็นแค่มองตาแล้วมีเรื่อง แต่ก็จากกันไป
เหมือนหนังต้องการแบ่งทั้งตัวบาร์ และป๊อปปี้ให้เหมือนกลุ่มคน ที่กลุ่มหนี่งเป็นกลุ่มที่จ้องจะหาผลประโยชน์เข้าหาตัว และทำทุกอย่างเพื่อตักตวงความมั่งมี และความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และอีกกลุ่มที่เหมือนเป็นดนตรีป๊อป ที่ไม่ว่าสังคมจะเลวร้ายยังไง ก็ยังยึดความคิด และความเป็นตัวเอง ที่ต้องช่วยเหลือผู้อื่น และไม่มองทุกอย่างเลวร้ายเกินความเป็นจริง
แต่ยังไงตอนจบของTrolls World Tour ที่มีเนื้อหาที่ให้เด็กดูได้แบบนี้ ก็ต้องลงเอยด้วยความเข้าใจ และการอยู่กันอย่างมีความสุขอย่างที่เราเดาๆ กันได้ เพียงแต่ว่าหากในความเป็นจริงที่เราจะเอามาปรับให้เข้ากับหนังเรื่องนี้ โดยการคิดมุมที่ให้กำลังใจตัวเองบ้าง กับสิ่งรอบตัวที่ไม่ได้ดีเสมอไป ก็เป็นการป้องกันความรู้สึกตัวเอง ไม่ให้แย่มากไปกว่าเดิม ในเมื่อคิดไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็เปิดเพลงฟัง แล้วเต้นไปเสียงเพลง พรุ่งนี้ค่อยกลับมาคิดใหม่ก็ได้