Blood Red Sky ใครบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมีที่มาและสาเหตุ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเกือบทุกเรื่องจะต้องมีที่มาที่ไป อย่างเรื่องราวของแม่ลูกหนึ่ง นาเดีย ที่หากไม่รู้เรื่องราวในอดีตของเธอแล้ว จะมองว่าเธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป แปลกที่ต้องใส่วิกผม เพื่อปกปิดการที่เธอหัวล้าน
แต่มากกว่านั้นใครจะรู้ว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาที่หัวล้าน แต่เป็นมากกว่าการเป็นมนุษย์ ที่จริงนาเดียเธอเป็นแวมไพร์ หรือผีดิบดูดเลือดนั่นเอง แต่การที่เธอเป็นมันไม่ใช่จู่ๆ เธอได้รับการสืบทอดจากวงศ์ตระกูล หรือครอบครัวแวมไพร์ แต่เป็นปูมหลังที่สามีเธอ เป็นสาเหตุให้เธอต้องเป็นแบบนี้ หนังเป็นเพียงแค่เปิดที่มาในอดีตเล็กน้อยเท่านั้น กับช่วงเหตุการณ์ที่เธอ ต้องดูแลเอเลียสในตอนเล็กๆ กับการที่รถเสียท่ามกลางหิมะ และสามีต้องออกไปหาคนมาช่วย เหตุการณ์ในครั้งนั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยน สำหรับชีวิตของเธอจนแทบจะจำความเป็นตัวเธอเอง ในแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกเลย
Blood Red Sky ความตื่นเต้นกับโจรสลัดกลางอากาศ
เราคงคุ้นเคยกับการปล้นกลางอากาศ หรือบนเครื่องบินแล้ว และส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องปัญหาของศาสนา และประเทศตะวันออกกลาง ที่มีความแค้นกับฝั่งของอเมริกัน เรื่องนี้ก็คงไม่ต่างกันเพียงแต่ว่า มันจะสนุกแค่ไหน หาก Blood Red Skyที่มีจะมีเลือดสาดท่วมเครื่องบิน เมื่อโจรสลัดโรคจิต หนี่งในทีมโจรสลัดทั้งหมด กับผู้โดยสารอย่างนาเดีย ที่เป็นแวมไพร์โดยไม่มีใครรู้ เธอต้องมีการฉีดสารยับยั้งการแสดงตัว หรือยับยั้งสัญชาติญาณผีดิบในตัวตลอดเวลาบนเครื่อง
เมื่อเกิดการไฮแจ็ค หรือทำการปล้นเครื่องบินแล้ว สิ่งที่อาจทำให้คนดูตกใจในช่วงแรกคือ มันมีหนอนบ่อนไส้กับเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน ที่เป็นหนี่งในโจรสลัด และคนนั้นก็ดันเหมือนคนโรคจิต ที่เรียกว่า ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีของหนัง ก็เกิดการฆ่าคนไป 2 คน ซึ่งสิ่งที่เกิดไม่ใช่สิ่งที่ทีมโจรสลัดทุกคนต้องการให้เป็น เพราะยิ่งทำให้การขออะไรกับทางรัฐบาลยิ่งยากขึ้น
ใครโชคร้ายกว่ากัน เมื่อรู้ว่าแวมไพร์เป็นผู้โดยสาร
จริงๆ ในช่วงหลังๆ ที่เห็นนาเดีย เริ่มคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว กับอาการผีดิบดูดเลือด ที่ไล่ฆ่าโจรสลัดแต่ละคนอย่างโหดเหี้ยม โดยมีเอเลียสลูกชายคอยห้ามไว้ตลอด แต่ยังไงก็คงต้องถือว่า เป็นเรื่องโชคดีที่มีนาเดียอยู่บนเครื่อง เพราะหากไม่มีเธอแล้ว อาจจะต้องมีผู้โดยสารอีกหลายคนที่โดนฆ่า รวมถึงนาเดียยังช่วยเป็นผู้นำ ให้มีการเปลี่ยนเส้นทางขับเครื่องบิน โดยให้ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น
เป็นการแสดงให้เห็นว่า เป้าหมายหรือสิ่งที่กลุ่มโจรสลัดต้องการ ยิ่งห่างไกลไปเรื่อยๆ เพราะช่วงหลังเรื่อง นาเดียต้องการให้เครื่องบินย้อนกลับไปสนามบินต้นทาง แต่ทุกอย่างคงไม่ง่ายเพราะมีนาเดียคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถสู้กับกลุ่มคนร้ายบนเครื่องได้ เพราะอย่าลืมว่ากลุ่มคนร้ายที่ปล้นเครื่องบินลำนี้มีมากกว่า 5 คนขึ้นไป เราเลยอาจจะเห็นซีนที่ยิงกันแบบ เลือดสาดเต็มเบาะเครื่องจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา
ถึงแม้ว่า Blood Red Skyอาจจะดูเป็นหนังฟอร์มเล็ก แต่เรียกว่าการสร้างเนื้อหา และพล็อตเรื่องมีความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะฉากแอ๊คชั่นก็ไม่มีการเซ็นเซอร์อะไร ให้เห็นกันทุกฉากแบบถึงใจกันไปเลย ถือว่าเป็นหนังที่อาจจะหาสาระ เรื่องเล่าหลังหนังจบไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้คือ ความรักของแม่ที่มีต่อลูก อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า เสียสละได้ทุกอย่างจริงๆ
