The Plague หนังที่ทำเอาคนดู ได้สยองตั้งแต่เริ่มดูสิบนาทีแรกกันเลยทีเดียว และด้วยความตั้งใจ ที่จะทำให้ดูเหมือนหนังแบบศุกร์ 13 ฝันหวาน หรือ The Friday 13th รวมกับหนังโรคไวรัสระบาดแบบ The Flu และคอหนังสยองขวัญ หรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับโรคระบาด ต้องทำใจว่าภาพตลอดทั้งเรื่อง จะเป็นแนวหม่น และทึบๆ เหมือนซีนส่วนใหญ่ จะเป็นกลางคืนตลอดเวลา
ที่สำคัญคือ การดูหนังพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนังผี สยองขวัญ หรือหนังที่ต้องการความน่ากลัว เราอาจจะไม่จำเป็นต้อง หาความหมาย หรือที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง รวมถึงเหตุการณ์บางอย่าง ที่เกิดขึ้นในเรื่อง เพราะจะยิ่งทำให้เรามีคำถามต่อหนังเรื่องนั้น และสะดุดอารมณ์ในบางซีนไป แต่ถ้าเป็นคนชอบความน่ากลัว และสะดุ้งตลอดการดู หนังเรื่องนี้รับรองทำได้ดีเกินคาด
ส่วนผสมโรคระบาดและสิ่งมีชีวิตนอกโลกเท่ากับ The Plague
จริงๆ ตอนแรกหากใครดู การเริ่มต้นโครงเรื่องสาเหตุ ของความสยองทั้งเรื่องนี้ คือการที่เด็กทุกคน ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงอายุวัยรุ่น เกิดป่วยด้วยอาการหนัก โดยไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร แต่ที่สำคัญจำนวนเด็กที่ป่วยนั้น มากเพียงพอที่จะเอาห้องกีฬาในร่ม มาเป็นที่วางเตียงคนป่วยเต็มห้องได้
ภาพในหนัง The Plague อดนึกถึงบรรยากาศ ในเวลานี้ที่เกิดโรคระบาด และเป็นเหมือนภาพจำลอง hospitel ในควาจริงวันนี้เลยทีเดียว หนังเรื่องนี้มีความไม่ตั้งใจ ในความตั้งใจถ่ายทอดภาพ เช่น ซีนที่เป็นเตียงมากมาย จากการถ่ายในมุมแคบ แล้วค่อยๆ ขยายมากขึ้น เพื่อเหมือนเป็นการเซอร์ไพร์สคนดูว่า จริงๆ แล้วไม่ได้มีเด็กป่วยแค่ไม่กี่สิบเตียง
การค่อยๆ ขยายมุมกว้างมากขึ้น ทำให้คนดูช็อกได้เหมือนกัน กับจำนวนเด็กที่จู่ๆ จะป่วยได้พร้อมกัน และมากเท่านี้ได้ แต่ความน่ากลัวยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะเด็กแต่ละคน ท่าทาง และการแสดงออกเหมือนโดนสะกดจิต อาการคล้ายมีแต่ร่างกาย แต่วิญญาณในร่างหายไปแล้ว
หนังสยองขวัญที่ทำได้น่ากลัว และคลาสสิก
การที่หนังเรื่องนี้มีการค่อยๆ สร้างความน่ากลัวให้เพิ่มมากขึ้น จากแรกเริ่มเด็กๆ ป่วย และมีการถ่ายเพิ่มเตียงคนป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ ในแบบไม่บอกคนดู รวมถึงตัวละคนในเรื่องว่า เกิดการป่วยแบบนี้ได้ยังไง ให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย ทำให้คนดูเหมือนการเดินเข้าไปในหนัง แบบไม่ให้รู้ทิศทาง แบบนี้ยิ่งทำให้เราไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์อะไรได้ ยิ่งทำให้ท้าทายคนดู
คิดว่าซีนที่จู่ๆ เด็กที่นอนบนเตียงคนไข้ ที่มีเตียงวางมากมายในห้องกีฬาในโรงเรียนนั้น ทุกคนพร้อมใจลุกขึ้น และยืนเดินมาหาหมอ ที่ดูแลสถานที่ตรงนั้น ทำให้หลายคนคงไม่กล้าที่จะดูต่อ ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
รวมถึงที่บอกถึง ความไม่มีเหตุผล และไม่จำเป็นต้องหาว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในหนัง ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ป่วยบนเตียง เกิดอาการชักพร้อมกัน เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน คือ 4 ทุ่ม ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีผีออกมา หรือมีเลือดสักหยด ก็ทำให้คนดูสยองได้แบบไม่ต้องหาคำอธิบายกันเลย
หากเราดูทีละส่วนของหนังเรื่องนี้ The Plague ที่บางคนบอกว่าเป็นหนังเชื้อโรค บางคนอาจมองว่าเป็นหนังจิตหลอน หรือหนังผีหรือเปล่า เพราะเด็กที่ป่วยพวกนี้ เหมือนตายไปแล้ว มีแต่ร่างกายตรงนี้คงต้องบอกให้ดูถึงตอนท้ายของเรื่อง เพราะมีเรื่องที่หลุดการคาดเดาของเราไปเลย
แต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้ดีคือ รู้ว่าอะไรเป็นตัวที่ช่วยดึงความน่ากลัว ส่งจากหนังไปหาคนดูได้ เช่นเสียงดนตรีประกอบ อย่างเปียโนที่กระแทกอารมณ์ โดยเฉพาะซีนที่มีการตามไล่ล่า หรือต่อสู้ปะทะกัน คล้ายหนังโรคจิต
การใช้จำนวนคน เพื่อดึงให้เกิดความน่ากลัวให้มากขึ้น เพียงแต่พลอตหนังจะไม่ค่อยมีอะไรมากไปกว่า การหนี และตามไล่ล่าระหว่าง เด็กที่ป่วยกับผู้ใหญ่ ในฉากที่ไม่ไกลไปจากโรงเรียน หากใครต้องการดูเพียง ขอความสยอง และสะดุ้งตลอดเรื่องเพียงแค่นี้ ก็ถือว่าเป็นหนังที่ตรงกับความต้องการ
https://moviesanywhere.com/movie/the-plague