Hustle เป็นหนังที่มีคำโปรยเกี่ยวกับ นักกีฬายัดห่วง หรือกีฬาบาสเก็ตบอล โดยมีตัวขายอย่าง อดัม แซนเลอร์ ที่ไม่ว่าใครที่เห็นหน้าดารานี้มา ต้องทาย 100 ทั้ง 100 ว่าต้องเป็นหนังตลก หรือ comedy อย่างแน่นอน และการที่หนังเรื่องที่ดาราชายคนนี้ตัดสินใจเล่น พลิกบทบาทเป็นดราม่า บทหนังต้องน่าสนใจพอที่เขาจะยอมเปลี่ยนคาแรคเตอร์เพื่อมาเล่น
สแตนลี่ ที่เล่นโดยอดัม แซนเลอร์นั้น เป็นทั้งโค้ช และแมวมอง ในการหาเด็กที่มีหน่วยก้านดี เพื่อเข้าร่วมทีมแข่ง NBA ซึ่งต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ที่เกิดมามีแววทางด้านบาสเก็ตบอล ซึ่งสแตนลี่มองเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรก หลายคนที่เป็นตัวเต็งในหลายประเทศที่เขาไป แต่กลับพังไม่ได้ท่ากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างวิ่งเร็วเกินไปจนเท้าพลิก นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า มีการฝึกวิ่งไม่เพียงพอ หรือมีร่างกายที่ฟิตไม่พอ
แต่กลับไม่ใช่นัดการแข่งบาสเก็ตบอลแบบใต้ดิน ที่พนันเป็นเงินเดิมพัน และคนที่มีแววในครั้งแรกที่เห็นเลยคือ โบ ครูซ คนสเปน ที่สแตนลี่มาถึงประเทศสเปนแห่งนี้ และกลายเป็นคนที่เขาเล็งอยู่ตอนนี้ ไม่ได้เป็นนักกีฬาอาชีพ แต่กลับมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขามาก
Hustle บททดสอบสำหรับคนจริงเท่านั้นที่จะเจอ
คำถามคือ หากรักในสิ่งที่เราเล่น หรือรักในสิ่งที่เราบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริงๆ ต้องไม่ปิดประตูที่เราเริ่มต้นเปิด เป็นคำพูดที่สแตนลี่ให้โบ ครูซคิด ในวันที่เขาพาตัวเด็กใหม่คนนี้ออกมาจากประเทศสเปนบ้านเกิด และมาเข้ารายการโชว์ เพื่อให้ทางทีมสโมสรที่สแตนลี่สังกัดอยู่ มองเห็นแววของโบ ครูซ แต่ไม่ทันไรด้วยทักษะ และการเล่นบาสฯ ที่เก่ง ก็ไม่ได้เป็นตัวหลักที่จะบอกว่า สามารถที่จะก้าวไปเป็นจุดสูงสุดของนักบาสเก็ตบอลได้ หากไม่มีการควบคุมอารมณ์ และไม่ฉลาดพอ เพียงแค่แชมป์เห็น โบ ครูซ ทำท่าจะเด่นเกิน พูดเสียดสีเพื่อให้เกิดอารมณ์ หรือเหมือนโดนกด ก็เกิดควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ถึงกับใช้กำลังใส่
ในวงการเล่นกีฬาที่อยู่ในระดับมืออาชีพแล้ว การก่อเหตุที่เป็นการทำร้ายร่างกาย หรือมีการกระทำที่รุนแรงต่อสายตาทุกคน ที่กำลังดูการแข่งขันอยู่ ถือว่าเป็นการทำที่ไม่ฉลาดเลย และนี่คือสิ่งที่โบ ครูซพลาดไป
หลังจากนั้นนอกเหนือจากที่สแตนลี่ ต้องฝึกซ้อม และเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายของโบ ครูซแล้ว ยังต้องทดสอบความอดทนทางอารมณ์อีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นแม่ของเขา และลูก ที่ทุกคนมีปมด้อย และอย่าให้จุดอ่อนของเราเป็นของเล่นของคู่แข่งได้ ในช่วงกลางเรื่อง Hustle เลยเหมือนกับการเร่งฝึกให้ โบ ครูซ เด็กใหม่คนนี้ ใช้งานได้ในการแข่งขันที่ใกล้มาถึง แต่อย่างที่บอกบททดสอบที่ยาก เหมาะสำหรับคนที่รักในสิ่งนั้นจริงๆ เท่านั้น
จุดไฟและความไม่ย่อท้อกับหนังเรื่องนี้
ใครที่มองผิวเผินว่าเป็นหนังเกี่ยวกับกีฬาเท่านั้น และเปลี่ยนใจไม่ดู ถือว่าเสียของดีอย่างไม่น่าเสียทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นหนังกีฬาที่ใครหลายคนมอง คนที่ไม่ได้ชอบกีฬา หรือไม่ได้ชอบบาสเก็ตบอล การมาดูครั้งนี้อาจทำให้ชอบกีฬาชนิดนี้เลยก็ได้ เพราะนอกจากจะเติมไฟความไม่ยอมแพ้ให้ลุกขึ้นมาใหม่ ยังเป็นการฉายตัวอย่างของ โบ ครูซ ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เรียกว่า ดิ้นทุกทางที่มีโอกาสหาเงินได้ เพราะตัวเขามีทั้งภาระต้องดูแลแม่ และลูกสาวที่ยังเล็กอยู่
การเข้าแข่งบาสเก็ตบอลในทุกครั้งแบบใต้ดินนั้น คือสิ่งเดียวที่ตัวของ โบ ครูซทำได้ เพราะตัวเขาไม่มีทางเลือกที่จะไปแข่งในรายการดังๆ ในวัยเพียง 22 ปีที่ยังมีความหวังในการเข้าแข่งขัน NBA และโอกาสก็มาพร้อมกับสิ่งที่สแตนลี่ที่ยื่นมาให้ เราคงรู้กันดีว่า ไม่ว่าโอกาสนั้นจะเล็กหรือใหญ่ แต่จะมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และก็จะหายไปหากเราไม่เลือก
ทั้งสแตนลี่ และโบ ครูซ ที่ต้องเจอกับปัญหา และบททดสอบที่ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่มีมารอบด้าน และมาแบบถี่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เรื่องความกดดันของทีมสโมสรที่ตัวเองสังกัด สำหรับสแตนลี่ กับช่วงเวลาที่ได้ร่วมงานมาเกิน 20 ปี แต่กลับโดนไล่ออก เพราะไม่ทำตามในสิ่งที่ผู้อำนวยการบอกมา หรือเรียกง่ายๆ ว่า หัวแข็งก็อยู่ไม่ได้ การโดนไล่ออก ไม่ได้หมายถึงการไม่มีงาน และไม่มีรายได้เท่านั้น แต่หมายถึงการต้องรับภาระ และความรับผิดชอบต่อ โบ ครูซ เด็กที่สแตนลี่รับปาก และให้คำสัญญากับแม่ และลูกสาวของเขาว่า จะกลับไปพร้อมอนาคต งานนักกีฬาบาสเก็ตบอลอาชีพ และเงินก้อนโต ทั้งหมอเป็นค่าใช้จ่ายที่มาตกอยู่ที่ครอบครัวของสแตนลี่ ในขณะที่ตัวเขาตกงาน Hustle เลยอาจจะไม่ใช่เพียงบอกเราให้เข้มแข็งเท่านั้น แต่ต้องอดทนให้เป็นในช่วงเวลาที่เหมือนหายใจไม่ออก แต่ยังไม่ตายก็ต้องสู้กันต่อไป ขอย้ำเลยว่า หนังเรื่องนี้เหมาะที่จะดูในช่วงวิกฤติแบบนี้เป็นอย่างมาก
https://www.agenciapacourondo.com.ar/
สนับสนุนโดย
ไฮโลไทย , ไฮโลไทยได้เงินจริง , เกมไฮโลไทยเว็บตรง
