The Invisible Thread จะทำยังไงเมื่อความรัก ที่เรามั่นใจแล้วว่า จะไปกันรอด และรักกันมาก แต่ความรู้สึก และความคิดนี้ไม่ได้หมายถึง คนสองคน แต่เป็นเพียงแค่เราคนเดียว ถือว่าเป็นทั้งหนังครอบครัว หนังรัก และหนังฟีลกู๊ดสัญชาติอิตาลี ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ โดยเฉพาะหนังเรื่องนี้ มีใจความหลักเกี่ยวกับเพศที่สาม หรือ LGBT
เริ่มเรื่องที่เป็นภาพวีดีโอของ เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ชื่อเลโอเน กับโปรเจคของครู ที่อยากให้เด็กหาเรื่องราวที่ทั้งตัวเองสนใจ และเป็นเรื่องราวที่นำเสนอต่อหน้าทุกคน ในโรงเรียน ได้อย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ซึ่งเลโอเนก็ต้องมาคิดทบทวน กับไอเดียของเขา ที่จะนำเสนอเรื่องราวครอบครัวสีรุ้งของตัวเอง ที่มีพ่อสองคน และตัวเขาเกิดจากการอุ้มบุญของทิลลี่ เพื่อนสนิทของทิลลี่ที่มหาวิทยาลัย
ความห่างเหินที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวที่ The Invisible Thread ต้องการสื่อ
เราคงคิดว่าหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่คงให้แต่แง่มุมที่ดีๆ และความสุข ที่ทำให้คนดูได้ค่อยๆ ยิ้มทีละนิด จนถึงยิ้มกว้างที่สุด กับความรัก ความเข้าใจ และการนำเสนอของ The Invisible Thread กับความไม่มีข้อจำกัดทางเพศมาเป็นอุปสรรค และจะดีแค่ไหนกับลูกชายอย่าง เลโมเน ที่เกิดมาท่ามกลางพ่อทั้งสองคนอย่าง เปาโล สถาปนิก และซีโมเน อดีตอาจารย์มนุษย์วิทยา และผันตัวมาเป็นเจ้าของภัตตาคาร และเชี่ยวชาญเรื่องไวน์
ถ้าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ จะราบรื่นเป็นตัวอย่างให้ชีวิตเราทุกคน เป็นแบบนั้นบ้างคงจะดีไม่น้อย แต่ทุกคู่ย่อมที่จะเกิดปัญหา และอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย และมากที่สุด สำหรับคู่รักคือ การมีใครอีกคน ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิด และไม่ควรมีใครรู้เรื่องนี้ ดันมาเกิดก่อนที่โปรเจคของเลโมเนจะนำไปเสนอให้กับครู กับความเสียใจ ที่เปาโลได้รู้ว่าคู่รักของเขา ซีโมเนมีใครอีกคนเก็บเอาไว้เป็นเวลานานกว่า 2 ปี และการผ่านสิ่งร้ายๆ และความลำบากกันมา ไม่ว่าจะเป็นการยื่นของใส่ชื่อพ่อลงในใบเกิดของ เลโอเน หรือการรอคอยที่จะจดทะเบียนสมรส หลังจากที่รู้จัก และรักกันมานาน
เมื่อวันหนี่งที่เปาโลเห็นข้อความ ของใครคนหนึ่งที่ส่งมาทางมือถือของ ซีโมเนและความลับทั้งหมดก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้อีก เมื่อเปาโลรู้ว่าทั้งคู่แอบคบกันมานาน 2 ปี ที่สำคัญตัวเขากลับไม่รู้ว่า ทำไมเหตุการณ์นี้ถึงเกิดขึ้นระหว่างตัวเขาเองกับ ซีโมเน ที่เขาคิดว่ารักกันมากพอ และเข้าใจกันมากกว่าใคร
บททดสอบที่ยากที่สุดคือ ยกโทษในสิ่งที่ตัวเราเองยอมรับไม่ได้
ไม่ว่าใครที่อยู่ในสถานะเดียวกับ เปาโล ที่ไม่ได้ทันตั้งรับกับเหตุการณ์ ต้องมารับรู้ว่าคู่รักตัวเองมีใครอีกคนเก็บไว้ และที่สำคัญมีความสัมพันธ์กันนานหลายปี สิ่งที่เปาโลทำได้ในเวลาที่ สติใกล้หลุดคือการมาหาทิลลี่ ผู้หญิงที่เคยอุ้มบุญ หรือคลอดเลโอเนออกมา แต่สิ่งที่เปาโลได้ยินจากทิลลี่ อาจจะเหมือนเป็นการยิ่งซ้ำเติมตัวเขามากขึ้น
เมื่อทิลลี่กลับบอกว่า หากเธอเป็นซีโมเน เธอคงทำแบบนี้ไปนานแล้ว และถามเปาโลว่า เคยถามความรู้สึก เคยสนใจความเป็นไปของซีโมเนแค่ไหน หลังจากที่เลโอเนเกิด ชีวิตไม่ได้มีแค่ลูก แต่คนที่อยู่ข้างๆ เราก็สำคัญ ถึงแม้ว่าเปาโลจะยังยืนยันว่า พอมีเลโอเนแล้ว มีเรื่องอย่างอื่นที่สำคัญมากกว่า และมองไม่เห็นว่าเรื่องที่ทิลลี่บอกมาจะสำคัญกว่า
ประโยคที่ทำให้อึ้งพอสมควรกับทั้ง เปาโล และคนดูที่ได้ยินคือ นานแค่ไหนที่เปาโลมองตาซีโมเน ในความรู้สึกเหมือนตอนที่รักกันแรกๆ ที่บอกเปาโลกว่า สิ่งที่บอกไป เปาโลควรมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในวันนี้ที่ผลของการห่างเหิน โดยที่ตัวของเปาโลเองไม่รู้สึกมาเป็นเวลานาน เกิดขึ้นให้เห็น และเสียใจในวันนี้
ประโยคที่ทิลลี่บอกเปาโลเพียงสั้นๆ แต่สามารถทำให้ทั้งเปาโล และตัวเราทุกคนได้คิดถึงคือ การที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ว่า ไม่ต้องบอกหรือแสดงออกก็รู้ว่ารัก และผูกพัน แต่ The Invisible Threadบอกว่าสิ่งนี้มันไม่พอ สำหรับคนสองคนที่ต้องเดินทางร่วมกัน ในระยะเวลาตลอดชีวิตคู่นี้ สุดท้ายแล้วกว่าที่เราจะรู้ความจริง คนของเราอาจไปผูกพันกับอีกฝ่าย มากกว่าตัวเราแล้วก็ได้ เมื่อถึงวันนั้นการยอมไปแก้ไข สิ่งที่เป็นข้อบกพร่องของเราเอง อาจสายเกินแก้แล้วก็เป็นได้
https://www.thefandomentals.com