Catch and Release หนังรักแบบไม่สมหวังในช่วงแรก แต่ปลายทางสดใสในแบบนี้ ไม่ค่อยจะเห็นสักเท่าไหร่ เพราะมีแต่คนสร้างที่เน้นตอนจบ ไม่ว่าจะให้สมหวังแบบไม่ทำร้ายความรู้สึกคนดู หรือจบแบบเศร้าให้คนดูจำได้ แต่สำหรับเรื่องนี้นอกจากจะได้นางเอกอย่าง เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์เล่นตัวนำเป็นนางเอกแล้ว ความที่บทที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ที่มีเรื่องกลัว มีความไม่สมบูรณ์ในนิสัย แต่ทำให้เกรย์สามารถยืนหนึ่งในใจคนดูได้ เพราะคนดูรู้สึก รับรู้ได้ว่าเข้าถึงตัวละครนี้
เมื่องานที่จัดขึ้นแทนที่จะเป็นงานแต่งของเกรย์ กับคู่หมั้นหนุ่มที่ต้องการวางแผนงานแต่งมานาน กลับต้องกลายเป็นงานศพของคู่หมั้นเธอแทน การมีแขกเต็มงาน ดอกไม้ที่มีคนส่งมาแสดงความเสียใจ รวมถึงการปลอบใจของทั้งเพื่อนฝูง และญาติฝ่ายชาย เป็นสิ่งที่เกรย์ไม่ชินเลย
เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นที่ เกรย์ได้แต่ยืนเศร้ากลางงาน และพูดกับคู่หมั้นของเธอในใจว่า คุณปล่อยให้ฉันมายืนต้อนรับแขกมากมายแบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆ ที่ฉันไม่ชอบเข้าสังคม และไม่ชอบคนมากมายแบบนี้ ฉันต้องทนใส่ส้นสูงเพื่องานศพคุณ และไม่เคยเผชิญกับสถานการณ์อะไร ที่ไม่มีคุณอยู่เคียงข้าง
สิ่งที่ไม่เคยรู้ และไม่คิดว่าจะเป็นจริงที่ Catch and Release
ใครหลายคนมั่นใจว่า คนข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท หรือแม้แต่แฟน คู่รัก สามี ภรรยาของตัวเอง ที่ผ่านการรู้จัก อยู่ด้วยกันมานาน และบอกได้เต็มปากว่า เป็นคนที่เราเข้าใจ และรู้ทุกอย่างในตัวคนนั้นหมดทุกอณู แท้จริงแล้ว Catch and Release ตั้งคำถามว่า มันเป็นแบบที่เราคิดจริงมั้ย เพราะเกรย์ได้เป็นตัวอย่างที่น่าจดจำว่า ไม่มีอะไรที่เราจะรู้ได้หมดทุกอย่าง ทุกเรื่องสำหรับคนๆ หนึ่ง
เพราะหลังจากที่คู่หมั้นของเธอตายไป ความเสียใจในช่วงแรก หลังงานศพที่จัดขึ้น ก็ค่อยๆ จางหายไป จากความโศกเศร้าเป็นการมองเห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อคนที่เธอมั่นใจว่ารู้ทุกอย่าง และไม่มีอะไรปกปิดเธอ กลับรู้ว่าเขามีภาษีย้อนหลังที่ต้องจ่ายเป็นเงิน 4 หมื่นกว่าดอลล่าร์ ซึ่งนั้นหมายถึง ตัวคู่หมั้นเธอต้องมีเงินเก็บเป็นหลักล้านโดยที่ไม่ได้บอกเธอ
สิ่งที่รู้นี้อาจยังไม่เซอร์ไพร์สพอ เพราะสำหรับเกรย์แล้วสิ่งที่ทำให้เธอยิ่งทรุดมากกว่าเดิมคือ ฟรินต์เพื่อนสนิทของคู่หมั้นเธอ ที่เธอสงสัยว่าทำไมเพื่อนที่คู่หมั้นเธอสนิทมาก ไม่มีความรู้สึกเสียใจเท่าไหร่เลย เพราะสิ่งที่เธอรู้หลังจากนั้นจากฟลินต์ก็คือ คู่หมั้นเธอมีผู้หญิงอีกคน ซ้ำร้ายมีลูกชายด้วยกันอีกหนึ่งคน รู้จักกันมาก่อนที่มาเจอ และคบกับเธอ
ตั้งรับยังไงกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน แต่เกิดขึ้นจริง
ไม่ว่าเป็นใครหากเจอเรื่องราวอย่างเกรย์ ทุกคนคงไปไม่เป็นกันทั้งนั้น แต่โชคดีของเกรย์ ที่เธอยังมีฟรินต์ในช่วงเวลาที่ไม่รู้จะไปทางไหน ในฐานะเพื่อนสนิทของคู่หมั้นตัวเอง การได้คุยกับใครสักคน ไม่ต้องวางตำแหน่งว่า คนๆ นั้นต้องเป็นคนที่พิเศษที่สุด แต่เป็นแค่ใครก็ได้ไม่ทำร้ายเราในช่วงเวลาที่เราแย่ที่สุด
ฟรินต์รับรู้ความรู้สึกของเกรย์ดี เพราะเขาเป็นคนรู้เรื่องราวทุกอย่างของเพื่อนสนิทตัวเอง ที่ทำกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเกรย์ และเหตุผลที่บอกไม่ได้เหมือนกันว่า ทำไมถึงต้องอยู่ข้างๆ ผู้หญิงอย่างเกรย์ ในช่วงเวลาแย่ๆ แบบนี้
หนังหลายเรื่องที่เหมือนจะเป็นหนังที่ดูง่ายๆ สบายๆ แบบ โรแมนติก คอมเมดี้ แต่กลับกันสิ่งที่ได้มากลายเป็น หลายสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา แต่ลืมที่จะคิดถึง และเอามาเป็นบทเรียนให้กับตัวเอง Catch and Release บอกให้เราทุกคนได้รู้ข้อหนึ่งว่า เราทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์แบบ หรือเพอร์เฟค
เมื่อไหร่ก็ตามมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เมื่อไหร่ กับใคร ให้เรารู้จักที่จะปลดปล่อยตัวเองจากคนๆ นั้น หรือสิ่งๆ นั้นไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ยังอยู่ร่วมโลกเดียวกัน หรือจากกันตลอดไป เพราะการที่เราผูกพัน หรือมีความสัมพันธ์กับใคร ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก แต่ในทางสมดุล เราก็ต้องเรียนรู้ ที่จะต้องแยกจากกันเมื่อโอกาส และเวลามาถึง
