Carter หากวันหนึ่งที่เราตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตัวหายไป นั่นคือความจำ แม้แต่ชื่อ และความเป็นตัวเองก็ยังจำไม่ได้ มันจะแย่แค่ไหน ที่สำคัญปัญหาที่ตามมา โดยที่เราไม่มีส่วนได้รับรู้ และต้องเตรียมพร้อมรับมือกับ เหล่านักฆ่า และตำรวจที่ตามเช็กบิลตามหลังอีกต่างหาก
พล็อตหนังเนื้อหาแบบนี้ เราอาจจะเคยเห็นซ้ำไปมา ผ่านตามาหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น สายลับอย่างบอร์น หรือ The Bourne Identity ที่โดนลบความจำไปหมด เพราะมีส่วนต่อความมั่นคงต่อประเทศ และนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง เลียม นีลสัน ในเรื่อง Memory ที่โดนลบความทรงจำจนหมดเหมือนกัน การสร้างแตกต่างจากเรื่องเหล่านี้ โดยการให้มุมมองทั้งหมดของเรื่อง เป็นในมุม 3 มิติ ที่คนดูจะเห็นได้ตั้งแต่ตอนเริ่มแรก ที่คล้าย stimulator หรือฉากในเกม ที่มีภาพในมุมลึก โดยเฉพาะซีนที่นำทีมตำรวจ มาตามล่าคาร์เตอร์บนรถบัส ทำให้เรารู้เลยว่า ธีมหลักของหนังเรื่องนี้คือ การสร้างาภาพที่เลียนแบบในเกมการต่อสู้นั่นเอง
Carter สัญลักษณ์ไม้กางเขน กับรอยแผลด้านหลังท้ายทอย
ภาพทีเซอร์ที่ให้ดูเป็นตัวอย่างหนัง เกริ่นเนื้อเรื่องให้คนดู ที่อาจจะเข้าใจผิดได้ว่า อาจจะคล้ายกับเรื่อง Priest แต่จริงๆ แล้วเหมือนหนังต้องการหลอกให้คนดูเข้าใจผิด ภาพรอยแผลเย็บที่เป็นกากบาท หรือคล้ายกับไม้กางเขนนั้น เป็นการผ่า และฝังบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายเครื่องมือสื่อสาร ระหว่างพระเอกเรื่องนี้ ที่ชื่อ Carter ที่รับบทโดย จูวอน ที่พูดในความเป็นจริง แค่เครดิตพระเอกคนเดียว ก็ทำให้คนเข้ามาดูเรื่องนี้ถล่มทลาย
รอยแผลด้านหลังท้ายทอย อาจไม่ใช่เพียงแค่การติดเครื่องสื่อสาร ให้มีการได้ยินกันระหว่างเพียงแค่สองคนเท่านั้น แต่เป็นการลบความทรงจำของพระเอกออกไปด้วย ทำให้การเริ่มต้นเรื่องมา ด้วยความที่เจ้าตัวอย่างคาร์เตอร์ งงกับภาพข้างหน้าที่อยู่ๆ ตัวเองก็มีตำรวจตามไล่ล่า พร้อมกับเลือดที่นองพื้นเต็มไปหมด แต่หารู้ไม่ว่าภายในความทรงจำ และความเคยชินของคาร์เตอร์นั้น มีความเป็นนักฆ่าฝังเข้าไปถึงเนื้อใน และไม่แปลกที่คาร์เตอร์ จะปรับสภาพรับรู้สถานการณ์ได้เร็วกว่าคนปกติ
สายโหดและบู๊แบบไม่มีเซ็นเซอร์ เต็มอิ่มทั้งเรื่อง

ใครที่เป็นสายหนังแอ็คชั่น ที่ต้องบอกและเน้นเลยว่า หนังเรื่องนี้อาจจะต้องมีการห้าม สำหรับเด็กที่อายุไม่ถึงตามที่ห้ามกันเอาไว้ แต่หากใครที่เป็นกลุ่มคนดู แบบไม่กลัวเลือด และต้องการให้มีการตามล่าแบบเลือดสาดแล้วละก็ อาจจะต้องบอกว่า เป็นเรื่องที่น่าจะชอบรวมถึง ฉากที่เซ็นเซอร์สำหรับการโป๊เปลือย ก็ไม่มีห้ามให้รำคาญสายตาอีกด้วย
เราจะเห็นได้จากตอนที่ เริ่มมีการให้คาร์เตอร์เป็นเสมือนตัวละครในเกม ที่นำทางคนดูให้ไปตามททางหนีที่มีคนบอก ผ่านเครื่องสื่อสารที่ฝังไว้ด้านหลังท้ายทอย การหนีเข้าไปในห้องออนเซน และมีนักฆ่า หรือกลุ่มยากูซ่าอยู่กันเต็มห้อง ที่กำลังทรมานเหยื่อ ทำให้เข้าใจว่าคาร์เตอร์เป็น ตำรวจ หรือ CIA ที่กำลังตามล่า เมื่อรู้แบบนั้นคิดว่า คาร์เตอร์จะรอดจากตรงนั้นหรือไม่ หากตัวเขาไม่มีวิชาดี หรือมีวิญญาณการเป็นนักฆ่ามาก่อน การที่สามารถฆ่ากลุ่มยากูซ่า ได้ทุกคนเป็นการบอกได้เลยว่า มีมุมมองทั้งภาพ และการเขียนบทที่เกินเลยความจริง ของความเป็นตัวหนังไปมาก แต่ก็ทำให้เราสามารถสนุกไปกับเนื้อเรื่อง ได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย
หนังเรื่องนี้เลยต้องบอก กลุ่มคนที่ต้องการดูก่อนเลยว่า จะเหมาะมากกับคนที่ต้องการดู เพื่อเอาความมัน และสะใจเป็นอันดับต้นๆ และไม่ต้องคิดถึง เนื้อเรื่อง หรือความเป็นมา เหตุผลอะไรมากมาย Carter อาจจะเป็นหนังที่เข้าใหม่ในต้นเดือนสิงหาคม ที่ยังมีความสด และใหม่ ที่ใครหลายคนอยากดู เพราะเห็นว่าเป็นหนังแอ็คชั่น และเป็นแนวนักฆ่าที่น่าจะมีเนื้อหาให้น่าติดตาม แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า เนื้อหาไม่สำคัญเท่ากับ ความบ้าระห่ำเท่านั้น สำหรับหนังเรื่องนี้